ศาลากลอนธรรม
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

 

 

ธรรมะกับวัยรุ่น


              ทุกครั้งที่เราทำกรรมดี ด้วยกาย วาจา และใจ เรียกว่า กุศลกรรม จิตใจเราก็สะสมนิสัยอ่อนโยนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นต้นว่า สร้างคุณงามความดี ตอบแทนพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่ ทำให้จิตใจเต็มไปด้วยคุณธรรม คือความกตัญญูกตเวที เช่นเดียวกัน หากเราส่งความปรารถนาดีแก่บุคคลอื่น แก่สรรมสัตว์ที่มีชีวิต จิตใจเราก็มีความสุภาพอ่อนโยน มีเมตตาธรรมเพิ่มมากขึ้นอีก ยิ่งมีการฝึกสติ ฝึกอบรมจิตใจให้มีสมาธิ โดยการเจริญภาวนา ก็จะบังเกิดทำให้เรามีสติปัญญา เฉลียวฉลาด หากปฏิบัติทุกวันหรือทุกคืน สะสมบุญญาบารมีไว้ อำนาจวาสนาดี ๆ ก็จะบังเกิดแก่เราเพิ่มขึ้นตามลำดับ ทั้งในปัจจุบันและใอนาคต



        สามีภรรยา ก่อนนอนหมั่นสร้างคุณงามความดีด้วยการไหว้พระสวดมนต์ เจริญสมาธิภาวนา อุทิศส่วนบุญกุศลให้กับบิดามารดา ญาติมิตรที่ล่วงลับไปประพฤติปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จิตใจก็เติมเปี่ยมไปด้วย คุณธรรม เทพบุตร เทพยดา ก็อยากลงมาปฏิสนธิ และเมื่อคลอดออกมาอยู่รอดเป็นทารก ก็ย่อมจะต้องมีคุณธรรมเหมือนพ่อแม่ กล่าวคือ เป็นคนดีมีความกตัญญูกตเวที มีเมตตาธรรม และมีสติปัญญาสูง เมื่อเจริญเติบโตขึ้นมา ก็เป็นยาวชนที่ดี เป็นประชาชนที่ดี และเป็นพลเมืองดีของสังคม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเอง ไม่สร้างความทุกข์ใจแก่พ่อแม่ ไม่สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นแก่สังคม ผู้รู้หรือบัณฑิตให้การยอมรับสรรเสริญ คุณงามความดี พ่อแม่ก็มีความชื่นใจ ภูมิใจ แต่ความเป็นจริงของสังคมในยุคปัจจุบันนี้ เยาวชนไทยฤาจะถูกต้องตามพุทธทำนายกระมัง เพราะเยาวชนเปลี่ยนไป ต่างประพฤติผิดแผกไปจากขนบธรรมเนียมประเพณี แวัฒนธรรมของชาติเช่น

เรียนโดด - ไม่สนใจการศึกษาเล่าเรียน

เกาะอก - คิดว่าตนเองเป็นคนนำสมัย

สายเดี่ยว - ถือว่าตนเองล้าสมัย ย้อนยุค

เอวลอย - เข้าใจตนเองว่าเป็นคนล้ำสมัย

เที่ยวดึก - ติดอบายมุข

ส้นตึก - ไม่สำรวจตนเองชอบลัทธิเอาอย่าง

มือเติบ - ไม่มีงานทำผลาญเงินพ่อแม่

ใจแตก - พากันหลงแสงสีสิ่งแวดล้อม

แหกคอก - ไม่ยึดขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม เสียสาวเมื่ออายุยังน้อย

                        นอกครู - ชอบลบหลู่ครู อาจารย์ ว่ากล่าวตักเตือนไม่ได้

ไม่อยู่ในโอวาทของพ่อแม่ - เห็นพ่อแม่เป็นหัวหลักหัวตอ

แลตอ - ชอบปิ้นปอก กลับกลอก ยอกย้อน เถียงคำไม่ตกฟาก

         ในสมัยพุทธกาล พระเจ้าประเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิต (ฝัน) ประหลาด ๆ ก็สะดุ้งตกพระทัยตื่นจากพระบรรทม คิดรำพึงถึงเหตุร้ายจะบังเกิดขึ้นต่าง ๆ นานา ครั้นพอสว่าง จึงได้ตรัสถาม ?ปุโรหิตาจารย์? ก็ได้รับคำแนะนำให้ทำการในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่สังคมและไร้สาระ พระนางมัลลิกาได้ทราบ จึงทูลแนะนำให้ไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อขอให้พระองค์ทรงทำนาย และก็ได้รับคำทำนายจากพระพุทธองค์ ขอยกเรื่องในฝันมาเป็นบางข้อเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้เข้ากับยุคสังคมไทย ปัจจุบัน

         พระเจ้าประเสนทิโกศล ฝันว่า ?ต้นไม้ทั้งหลาย พองอกได้คืบหนึ่ง หรือศอกหนึ่งก็มีดอกและมีผล? พระพุทธองค์ทำนายว่า ?ในกาลข้างหน้า สมัยหนึ่งเด็กหญิงจะมีราคะดำฤษณา ไปสู่อำนาจบุรุษ แต่เด็ก ๆ มีครรภ์และมีบุตร ทั้งที่มีวัยยังไม่สมบูรณ์?ปัญหามีท้อง หาผู้ที่รับผิดชอบไม่ได้ ที่เราเรียกกันว่า ?มารหัวขน? คลอดลูกแล้วก็นำไปทิ้งตามถังขยะ บางคนก็โยนลงทางหน้าต่าง บางคนดีหน่อยนำไปวางไว้หน้าบ้านคนอื่น ปล่อยให้มดตอมไต่ สุดที่จะเวทนา สภาสังคมสงเคราะห์ก็รับภาระเลี้ยงดูไปก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เราต้องมาวิเคราะห์กันหน่อยว่า ทำไมเยาวชนจึงเป็นแบบนี้

๑. ขาดการอบรมสั่งสอนด้วยคุณธรรม

- ไม่ไหว้พระสวดมนต์

- พ่อแม่ไม่สนใจพาลูกเข้าวัด

- ไม่อบรมสั่งสอนคุณสมบัติผู้ดี

- ขาดวัฒนธรรมหล่อหลอม

  ๒. ถูกหยามเหยียด
 - ยากจน
- ปัญญาไม่ดี

- ยากไร้ทางด้านวัตถุ คับแค้นทางด้านจิตใจ
- สังคมดูถูก

- ถูกสังคมหยามเหยียดด้วยสายตา แสดงอาการน่ารังเกียจ

 ๓. เกลียดผู้ใหญ่

- พ่อแม่ทะเลาะกัน

- พ่อแม่ชอบดื่มสุรา

- พ่อแม่หย่าร้าง

- ผู้ใหญ่ชอบเล่นการพนัน

- ผู้ใหญ่ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี

- ผู้ใหญ่กลายเป็นผู้ล้มละลาย

- ผู้ใหญ่ชอบเบ่งบารมีแผ่อิทธิพล

- ผู้ใหญ่ชอบอิจฉาเรื่องยศฐานบรรดาศักดิ์

- ผู้ใหญ่ระดับชาติหรือนักการเมืองคดโกง

 ๔. เรียกร้องความสนใจ

- พ่อแม่เอาแต่งานสังคมสงเคราะห์

- พ่อแม่ไม่ค่อยกอดลูก

- พ่อแม่ไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนลูก

                         ๕. ไม่ศรัทธาผู้บริหารประเทศ

- ผู้บริหารบ้านเมืองไม่ทำตนเป็นคนทุ่มเท

- ผู้บริหารไม่เสียสละเพื่อชาติ

- ผู้บริหารส่วนมากยอมสละชาติเพื่อชีพ

- ผู้บริหารเห็นแก่ตัว แบ่งพรรคแบ่งพวก

จึงเห็นได้ว่า เยาวชนของชาติเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสสังคมยุคโลกาภิวัฒน์คอยมุ่ง

จะบริโภควัตถุนิยม หันหลังให้กับจิตนิยม สังคมไทยจึงพิกลพิการเช่นนี้ พฤติกรรมที่เยาวชนแสดงออก

๑. มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ

๒. พากันหันหน้าเสพกาม

๓. ชอบเลียนแบบตามดารา

๔. บ้าการพนัน

๕. ติดเพศสัมพันธ์

๖. เหหันเป็นกระเทย

๗. ละเลยต่อศีลธรรม

๘. นำพาแต่สิ่งชั่วร้าย

๙. สร้างความหนักใจให้พ่อแม่ ครู อาจารย์

๑๐. ชอบเป็นอันธพาลครองเมือง

หลาย คนอาจจะแย้งว่า ไม่จริง ๆ เยาวชนดี ๆ มีถมไป ทำไมไม่นำมากล่าว ก็เหมือนการเขียนข่าว เขียนธรรมดา ๆ มันก็ไม่ดัง ไม่สะใจคนอ่าน ช่างเถอะ?.. เรามาวิเคราะห์กันต่อไปว่าทำไมหนอ เยาวชนไทยไม่สร้างสรรค์ อาจจะเป็นเพราะว่า

๑. ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ

๒. ครอบครัวสามารถพึ่งพากันได้ตลอดชีวิต

๓. เมืองไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติ

๔. ภัยของธรรมชาติมีน้อย จึงขาดการต่อสู้กับภัยธรรมชาติ

๕. คนไทยชอบดูถูกตนเอง แต่กลับบูชาชาวตะวันตก

๖. ชอบหลงตนเองกับภาพเก่า ๆ เงาเดิม ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง

๗. คนไทยเชื่อฝีมือคนไทยยาก แต่เชื่อฝรั่งง่าย

๘. ผู้คนขอกันกินง่าย

๙. มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

๑๐. กระบวนการศึกษาชอบเลียนแบบฝรั่ง

๑๑. การศึกษาไม่เป็นไปตามคำสอนของพระพุทธศาสนา กล่าวคือ

- สุตะ ไม่ชอบฟัง

- จินตะ คิดไม่เป็น

- ลิขิตะ เขียนไม่เป็น ขี้เกียจบันทึก

- ปุจฉา ไม่กล้าแสดงออก เอาเขาว่า

๑๒. คนไทยชอบมีคนรับใช้ในบ้าน

๑๓. ไม่กระตุ้นความคิด อะไรก็ได้ ง่าย ๆ

เมื่อเยาวชนไทย หรือคนไทย ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ จึงปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปตามกระแสของสังคม ความเสื่อมก็ครอบงำเยาวชน

๑. ยกพวกตีกัน

๒. ไล่ฆ่าไล่ฟันกันตามหน้าสถานศึกษาอย่างป่าเถื่อน

๓. การรวมเพื่อนแข่งขันมอเตอร์ไซค์ยามค่ำคืน

๔. ดึกดื่นไม่นอน ชอบลักเล็กขโมยน้อย

๕. จ้องคอยคิดจะเที่ยวเตร่ไปวัน ๆ

๖. ขยันในด้านการมั่วสุมทางเพศ

๗. เป็นเหตุพากันดื่มสุราของมืนเมา

๘. ชอบรุมเร้าส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพคิด

๙. คิดไม่เป็น

๑๐. เป็นพวกมิจฉาทิฎฐิ (เห็นผิดเป็นชอบ)

ดัง นั้น ทุกสถาบันของสังคมไทย โดยเฉพาะสถาบันครอบครับ สถาบันการศึกษา และสถาบันศาสนา ต้องมีการร่วมมือกันช่วยแก้ปัญหาของสังคม โดยปฏิบัติภารกิจดังกล่าวให้มีการประสานสอดคล้องมีขอบเขตแนวทางป้องกัน

๑. ปลูกจิตสำนึกให้รู้คุณค่าของตนเอง

๒. สอนให้รู้จักคุณค่าของคนอื่น

๓. มุ่งเน้นอบรมให้เห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมโลก

๔. แนะนำให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน

๕. คอยช่วยเหลือผู้ต้อยโอกาสกว่าตน

๖. บอกให้รู้จักแบ่งปันความสุขของคนแก่คนอื่น

๗. มีเมตตากรุณาต่อบุคคลอื่น

๘. หยิบยื่นช่วยเหลือสังคม

๙. อบรมด้านคุณธรรมทางศาสนา

๑๐. ให้การศึกษาอย่างทั่วถึง

๑๑. คิดถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคม

นอก จากนี้ เยาวชนทั้งชายทั้งหญิง จะต้องสำรวมระวังตนเอง มีแนวทางการดูแลตัวเองเป็นสำคัญ ขอหยิบยกแนวทางสำหรับการดูแลตนเองของเยาวชนทั้งชายทั้งหญิง

แนวทางการดูแลตนเองของเยาวชนชาย

๑. อย่าพึ่งยาเสพติด

๒. อย่าเป็นมิตรกับคนชั่ว

๓. อย่าทำตัวดื้อรั้น

๔. อย่าขยันเที่ยวเตร่

๕. อย่าเกเรกับเพื่อนบ้าน

๖. อย่าเกียจคร้านการทำกิน

๗. อย่าดูหมิ่นพ่อแม่

๘. อย่าทำแน่ว่าไม่ตาย

๙. อย่างทำลายวัฒนธรรม

๑๐. อย่าสุขสำราญจนลืมชาติ

 แนวทางการดูแลตนเองของเยาวชนหญิง

๑. อย่านุ่งกระโปงสั้น

๒. อย่าดื้อรั้นลองยา

๓. อย่าพึ่งพาคนแปลกหน้า

๔. อย่าคบหาเพื่อนไม่ดี

๕. อย่าหลีกหนีพ่อแม่

๖. อย่าพ่ายแพ้ความฟุ่มเฟือย

๗. อย่าเฉื่อยแฉะเที่ยวเตร่

๘. อย่าเกเรไม่กลับบ้าน

๙. อย่าเผาผลาญเงินทอง

๑๐. อย่ามัวแต่มองเพื่อนชาย 

 


อันคนเรานั้นดีที่ตรงจิต

ด้วยเฝ้าคิดสิ่งดีได้ไม่หนักหนา

คิดสิ่งไรทำสิ่งไรดีทุกครา

ธรรมนำมาย้อมใจนำได้ดี



 

Forum Names Topics Last Post
Classified Board
ศาลากลอนธรรม
Share your idea with our community.
0

[/url]


             
Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 8,333 Today: 2 PageView/Month: 2

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...